top of page

เสื้อชูชีพ: อุปกรณ์ช่วยชีวิตที่ไม่ควรมองข้าม

เมื่อพูดถึงกิจกรรมทางน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการล่องเรือ เล่นเจ็ตสกี ตกปลา หรือแม้แต่การเดินทางด้วยเรือโดยสาร สิ่งหนึ่งที่ทุกคนควรให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ คือ "ความปลอดภัย" และเสื้อชูชีพคือหนึ่งในอุปกรณ์พื้นฐานที่ช่วยชีวิตได้จริงในสถานการณ์ฉุกเฉิน


ree

เสื้อชูชีพคืออะไร?

เสื้อชูชีพ (Life Jacket หรือ Personal Flotation Device - PFD) คืออุปกรณ์ช่วยลอยตัวบนผิวน้ำ ถูกออกแบบมาให้ผู้สวมใส่สามารถลอยตัวได้โดยไม่ต้องว่ายน้ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สามารถว่ายน้ำได้ หรือในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ เช่น ตกน้ำหมดสติ เสื้อชูชีพจะช่วยพยุงศีรษะให้อยู่เหนือน้ำ ลดโอกาส การจมน้ำ

ประเภทของเสื้อชูชีพ

  1. เสื้อชูชีพแบบมาตรฐาน (Foam Type)

    • ทำจากโฟมหรือวัสดุที่มีความหนาแน่นต่ำ

    • ใช้งานง่าย ไม่ต้องเติมลมหรือดูแลรักษายุ่งยาก

    • เหมาะสำหรับกิจกรรมทั่วไป เช่น ล่องแก่ง พายเรือ

  2. เสื้อชูชีพแบบเป่าลม (Inflatable Type)

    • ขนาดกะทัดรัด เบา สวมใส่สบาย

    • ต้องมีการเติมลมอัตโนมัติเมื่อสัมผัสน้ำ หรือดึงสายฉุกเฉิน

    • นิยมใช้ในเรือโดยสาร หรือเรือประมง


วิธีเลือกเสื้อชูชีพให้เหมาะสม

  • เลือกขนาดให้พอดีกับร่างกายเสื้อไม่ควรหลวมเกินไปหรือคับจนหายใจไม่สะดวก

  • ตรวจสอบน้ำหนักรองรับบนฉลากเสื้อจะมีข้อมูลน้ำหนักที่สามารถรองรับได้ ควรเลือกให้เหมาะสมกับผู้สวมใส่

  • มีเครื่องหมายรับรองมาตรฐานเช่น มอก. (ประเทศไทย), CE (ยุโรป) หรือ US Coast Guard Approved (สหรัฐฯ)

  • อยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่มีรอยขาดหรืออุปกรณ์เสริมชำรุด เช่น สายรัด ซิป หรือหัวเข็มขัด


เหตุผลที่ควรใส่เสื้อชูชีพทุกครั้งที่ทำกิจกรรมทางน้ำ

  • อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา แม้แต่คนว่ายน้ำเก่งก็อาจประสบเหตุที่ทำให้หมดสติได้

  • ช่วยเพิ่มโอกาสการรอดชีวิต โดยเฉพาะเมื่อไม่มีผู้ช่วยเหลือในทันที

  • เป็นข้อบังคับตามกฎหมาย ในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย การไม่ใส่เสื้อชูชีพขณะโดยสารเรืออาจมีความผิดทางกฎหมาย


สรุป

เสื้อชูชีพอาจดูเป็นอุปกรณ์ที่ธรรมดา แต่ในสถานการณ์คับขัน มันสามารถเป็นตัวตัดสินระหว่าง “ชีวิต” และ “ความสูญเสีย” ได้เลย ดังนั้น ไม่ว่าจะทำกิจกรรมทางน้ำแบบใด ควร “ใส่เสื้อชูชีพทุกครั้ง” เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองและคนที่คุณรัก


🔺 พรนภา เซฟตี้

 
 
 

ความคิดเห็น


พรนภา เซฟตี้

bottom of page