top of page

วิวัฒนาการของกรวยจราจร


ree

กรวยจราจร เป็นอุปกรณ์อันเล็ก ๆ ที่ทุกคนคุ้นตา แต่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาความปลอดภัยบนท้องถนนและในเขตก่อสร้าง กรวยสีส้มยอดแหลมที่เราเห็นทุกวันนี้ผ่านการพัฒนามาหลายยุคสมัยกว่าจะได้มาตรฐานที่ใช้ทั่วโลก


1.จุดเริ่มต้น กรวยไม้ยุคแรก

กรวยจราจรถือกำเนิดขึ้นในช่วง ทศวรรษ 1910–1920 ที่สหรัฐอเมริกา โดยในยุคแรก ๆ ใช้ ไม้ หรือ โลหะ มาทำเป็นโครงสามเหลี่ยมหรือทรงกรวยตั้งไว้กลางถนน เพื่อเตือนคนขับรถให้หลีกเลี่ยงพื้นที่ก่อสร้าง แต่ปัญหาคือกรวยไม้และโลหะหนัก เคลื่อนย้ายยาก และถ้ารถชนอาจทำให้เกิดความเสียหายกับทั้งกรวยและรถยนต์


2.ก้าวสำคัญ กรวยยางยุค 1940

ในปี 1940 Charles D. Scanlon พนักงานเทศบาลในแคลิฟอร์เนีย ได้คิดค้น กรวยจราจรที่ทำจากยาง (Rubber Traffic Cone)

  • น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย

  • ยืดหยุ่น ไม่ทำให้รถเสียหายเมื่อตกกระแทก

  • คงรูปตั้งตรงได้แม้โดนลมแรง

นับเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้กรวยจราจรถูกใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น

ree

3.เพิ่มความปลอดภัย: สีสะท้อนแสงและวัสดุพลาสติก

หลังจากนั้น กรวยจราจรถูกปรับปรุงให้เหมาะกับงานจราจรยุคใหม่:

  • ทศวรรษ 1960–1970: เริ่มใช้ สีส้มสด เพื่อให้มองเห็นได้ชัดในระยะไกล

  • เพิ่ม แถบสะท้อนแสง (Reflective Tape) เพื่อให้คนขับเห็นได้ในเวลากลางคืน

  • พัฒนาเป็นวัสดุ พลาสติก PE หรือ EVA ที่น้ำหนักเบากว่ายาง แต่ทนทานต่อสภาพอากาศและแสงแดด

ree

4.กรวยจราจรยุคปัจจุบัน

กรวยจราจรในปัจจุบันถูกออกแบบให้ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย:

  • ผลิตจาก พลาสติกคุณภาพสูงผสมสารกัน UV เพื่อไม่ให้สีซีดจาง

  • หลายรุ่นมี ฐานยางถ่วงน้ำหนัก เพื่อให้มั่นคงไม่ล้มง่าย

  • ใช้สีส้ม สีเขียว หรือสีอื่น ๆ ตามมาตรฐานสากลและความต้องการเฉพาะพื้นที่

  • ติดตั้ง ไฟกระพริบ LED หรือโซล่าเซลล์ เพื่อเพิ่มการมองเห็นในที่มืด

ree

บทบาทที่ยังคงสำคัญ

แม้เทคโนโลยีด้านจราจรจะพัฒนาไปมาก แต่กรวยจราจรก็ยังเป็นเครื่องมือที่ เรียบง่าย ประหยัด และมีประสิทธิภาพสูง ในการจัดระเบียบถนน กั้นพื้นที่อันตราย และเพิ่มความปลอดภัยให้ทั้งผู้ใช้รถและผู้ปฏิบัติงาน


สรุป

จากกรวยไม้หนักอึ้งเมื่อร้อยปีก่อน สู่กรวยพลาสติกสะท้อนแสงน้ำหนักเบาในวันนี้ กรวยจราจรเป็นตัวอย่างของการพัฒนาอุปกรณ์จราจรให้เหมาะสมกับสภาพการใช้งานและความปลอดภัยของผู้คน ซึ่งยังคงมีบทบาทสำคัญบนท้องถนนทั่วโลก


🔺 พรนภา เซฟตี้


 
 
 

ความคิดเห็น


พรนภา เซฟตี้

bottom of page